ใต้สุดเมืองไทย ไปเบตง เมืองในม่านหมอก
>>กำหนดการเดินทาง<<
วันแรก
สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ – สนามบินหาดใหญ่ – วัดคูหาภิมุข – หอนาฬิกา เบตง – ตู้ไปรษณีย์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย – วัดโพธิสัตโต เจ้าแม่กวนอิม – รูปปั้นไก่ สัญลักษณ์ประจำเมืองเบตง – อุโมงค์มงคลฤทธิ์ |
06.30 น. ลูกทัวร์สูงวัยฟรุ้งฟริ้งพร้อมหน้าพร้อมตากัน ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง อาคาร 2 ชั้น 3 ประตู 9 เคาน์เตอร์ 9 – สายการบินไทยแอร์เอเซีย ( เข้าประตู 9 โดยทีมงานทัวร์ฟ้าใสรอบริเวณเคาน์เตอร์ 9พร้อมป้ายต้อนรับค่ะ )** ให้บริการอาหารเช้าแบบข้าวกล่องที่สนามบินค่ะ
08.10 น. ออกเดินทางสู่สนามบินหาดใหญ่ โดยสายการบินไทยแอร์เอเซีย เที่ยวบินที่ FD3116ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาที
09.40 น. เดินทางถึงสนามบินหาดใหญ่
ยามสาย นำทุกท่านเดินทางสู่เบตง จังหวัดยะลา เมืองงามชายแดน ชมบรรยากาศแสนสบายกับรอยยิ้มของชาวเบตง
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร ระหว่างทาง
จากนั้น เดินทางต่อไปยังจังหวัดยะลา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
ยามบ่าย นำท่านชม วัดคูหาภิมุข หรือ วัดหน้าถ้ำ อยู่ตำบลหน้าถ้ำ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญของภาคใต้เช่นเดียวกับพระบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช และพระบรมธาตุไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งแสดงถึงความรุ่งเรืองของศาสนาพุทธในบริเวณนี้ตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีวิชัย บริเวณวัดร่มรื่นมีธารน้ำไหลผ่านบันไดขึ้นไปยังปากถ้ำมีรูปปั้นยักษ์ชาวบ้านเรียกว่า “เจ้าเขา” สร้างเมื่อ พ.ศ. 2484 ภายในถ้ำมีลักษณะคล้ายห้องโถงใหญ่ ดัดแปลงเป็นศาสนสถาน มีปล่องที่เพดานถ้ำยามแสงแดดส่องลงมาดูสวยงาม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่สันนิษฐานว่าสร้างมาแต่ปี พ.ศ. 1300 เป็นพระพุทธไสยาสน์สมัยศรีวิชัย มีขนาดความยาว 81 ฟุต 1 นิ้วเชื่อกันว่าเดิมเป็นปางนารายณ์บรรทมสินธุ์เพราะมีภาพนาคแผ่พังพานปกพระเศียร
เดินทางต่อไปยังอำเภอเบตง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที
จากนั้นผ่านชม หอนาฬิกา เป็นสิ่งก่อสร้างอันเก่าแก่ที่อยู่เคียงคู่กับเมืองเบตงมายาวนาน เปรียบเป็น สัญลักษณ์ที่ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของเมือง ทำการก่อสร้างด้วยหินอ่อน ในยามเย็นจะเห็นฝูงนก นางแอ่นนับหมื่นตัวมาเกาะอยู่รอบ ๆ สายไฟบริเวณหอนาฬิกาจนกลายมาเป็นสัญลักษณ์คู่หอนาฬิกา
จากนั้น ชมตู้ไปรษณีย์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตู้เดิมตั้งอยู่ที่บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาใจกลางเมืองเบตง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 ตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง จุดประสงค์ที่สร้างไว้ในครั้งแรกก็เพื่อใช้เป็นที่กระจายข่าวสารบ้านเมือง ให้ชาวเมืองเบตงได้รับฟัง จากวิทยุที่ฝังอยู่ส่วนบนของตู้ และใช้เป็นตู้ไปรษณีย์มาจนทุกวันนี้ ปัจจุบันได้มีการสร้างตู้ไปรษณีย์ขึ้นใหม่ใหญ่กว่าเดิมที่บริเวณศาลาประชาคม ถนนสุขยางค์ มีความสูงประมาณ 9 เมตร เป็นจุดเด่นที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
แวะนมัสการ วัดโพธิสัตโต เจ้าแม่กวนอิม เป็นสถาปัตยกรรมที่สะท้อนให้เห็น ในอดีตของเมืองเบตง
จากนั้นนำท่านชมสัญลักษณ์ประจำเมืองเบตง และถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก นั่นคือไก่เบตง
ยามเย็น รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
ยามค่ำ นำท่านเดินทางเช็คอินเข้าที่พักโรงแรม GRAND MANDARIN หรือโรงแรมเทียบเท่า
นำท่านชม อุโมงค์มงคลฤทธิ์ เป็นอุโมงค์รถยนต์ ลอด ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ยาว 273 เมตรกว้าง 9 เมตร สูง 7 เมตรผิวจราจรคู่กว้าง 7 เมตร มีทางเดินเท้าข้างละ 1 เมตร มีระบายน้ำอย่างดี ความเร็วรถจำกัด ที่ 60 กม./ชมอุโมงค์นี้เปิดใช้เมื่อ 1 ม.ค. 2544 สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหา การจราจรระหว่างเมืองเก่า กับเมืองใหม่ และทะลุออกไปสู่หมู่บ้านใหญ่ กลางหุบเขา คือหมู่บ้าน ธารน้ำทิพย์ บ้านซาโห่
เข้าที่พัก ราตรีสวัสดิ์...สำหรับคืนนี้
วันที่สอง
ชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง – สกายวอล์คเบตง – สวนหมื่นบุปผา – อุโมงปิยะมิตร – บ่อน้ำพุร้อน – พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ – Street art เบตง |
05.00น. นำทุกท่านไปชมความสวยงามของ พระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก ที่ กม.32 (เขาไมโครเวฟ) ตั้งอยู่ในเขตของตำบลอัยเยอร์เวง (สำหรับทะเลหมอกขึ้นอยู่กับสภาพอากาศค่ะ)
***ต้องเปลี่ยนเป็นรถสองแถวของชาวบ้าน และรถมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ขึ้นต่อไปยังจุดชมวิว***
ชม สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง (Skywalk ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง) บนระดับความสูง 2,038 ฟุต จากระดับน้ำทะเล เป็นอาคารโครงสร้างเหล็ก มีความสูง 45 เมตร มีบันไดให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปชมวิว และลิฟต์ให้บริการสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง มีไฮไลท์สำคัญ คือ ระเบียงทางเดินที่ยื่นออกไปจากฐานมีความยาวรวม 63 เมตร ส่วนปลายเป็นระเบียงชมวิวพื้นกระจกใสที่สามารถมองทะลุลงไปได้ถึงพื้นเบื้องล่าง สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้รอบทิศทาง และวิวพระอาทิตย์ขึ้น และทิวทัศน์อันสวยงามสุดอลังการ
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางกลับที่พัก รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ยามสาย นำท่านชม สวนหมื่นบุปผา หรือเรียกว่า สวนไม้ดอกเมืองหนาวเบตง สวนดอกไม้นี้อยู่ท่ามกลางภูเขาบริเวณหมู่บ้านปิยะมิตร 2 ซึ่งเป็นหมู่บ้านของผู้ที่เคยเข้าร่วมพัฒนาชาติไทย เมื่อครั้งในอดีต ปัจจุบันชาวหมู่บ้านปิยะมิตรได้เข้าร่วมโครงการปลูกดอกไม้เมืองหนาว ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ความสวยงามของดอกไม้ที่ปลูกเรียงรายเป็นทิวแถวเย้ายวนให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมและสัมผัสกับสภาพภูมิอากาศที่มีอุณภูมิต่ำกว่าพื้นที่อื่นของภาคใต้
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
ยามบ่าย จากนั้นนำเข้าชม อุโมงค์ปิยะมิตร สร้างโดยกองกำลังพรรคคอมมิวนิสต์มาลายา ในปี พ.ศ. 2519 เพื่อใช้เป็นฐานปฏิบัติการสมาชิกพรรคฯ เป็นอุโมงค์มีความกว้างพอคนเดินได้ ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร คล้ายๆกับ อุโมงค์ “กู๋จี” ของพวกนักรบเวียงดงที่โฮจิมินทร์ ปัจจุบันอุโมงค์มีรอยอดีตทิ้งไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ทัศนา อาทิ ห้องนอนเตียงดินเหนียว อุปกรณ์การสู้รบ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ รวมถึงห้องบัญชาการรบที่จุคนได้ถึง 200 คน
จากนั้น นำทุกท่านเข้าไปสัมผัส บ่อน้ำพุร้อน ต.ตาเนาะแมเราะ ที่บ่อใหญ่มีความร้อน ต้มไข่สุก ภายในเวลาแค่ 7 นาที ในคณะที่บ่อเล็กมีการขุดทอนความร้อนของสายน้ำให้เราๆท่านๆสามารถนั่งเอาเท่าแช่น้ำ กันได้แบบร้อนพอสมควรแต่ไม่ถึงกับต้มไข่สุก
นำคณะนมัสการ พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ตั้งอยู่บนเนินเขาในตัวเมืองเบตง บริเวณวัดพุทธาธิวาส ถนนรัตนกิจ ลักษณะเจดีย์ก่อสร้างแบบศรีวิชัยประยุกต์ สีทองอร่าม สูง 39.9 เมตร บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสพระชนมายุครบ 60 พรรษา จากเจดีย์สามารถมองเห็นทัศนียภาพของวัดและเมืองเบตงอีกมุมหนึ่งได้สวยงาม
ยามเย็น นำท่านแวะถ่ายรูป Street Art เบตง เป็นผลงานที่ถูกวาดขึ้นด้วยฝีมือของ นักศึกษาและอาจารย์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เพื่อโปรโมทงาน 111 ปี เล่าขานตำนานเมืองเบตง
ยามค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
นำท่านเดินทางเช็คอินเข้าที่พักโรงแรม GRAND MANDARIN หรือโรงแรมเทียบเท่า
ราตรีสวัสดิ์...สำหรับคืนนี้
วันที่สาม
เบตง – สะพานข้ามเขื่อนบางลาง – ถ้ำกระแชง – ยะลา - สนามบินหาดใหญ่ |
ยามเช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหาร และเก็บสัมภาระพร้อมเช็คเอ้าท์
ยามสาย นำท่านแวะถ่ายภาพ สะพานข้ามเขื่อนบางลาง จ.ยะลาที่ ต.แม่หวาด อ.ธารโต สะพานที่ช่วยย่นระยะทางที่คดเคี้ยวได้กว่า 15 กิโลเมตร ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเขื่อนบางลาง เชื่อมถนนหมายเลข 410 ส่วนที่ลัดเลาะบริเวณท้ายเขื่อน ที่มีความคดเคี้ยวเข้าด้วยกัน
จากนั้นพานำชม ถ้ำกระแชง เป็นถ้ำที่สวยงามตามธรรมชาติ เพดานของถ้ำมีหินย้อยมากมาย
***เดินทางประมาณประมาณ 1 ชั่วโมง สู่อำเภอเมืองยะลา***
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
จากนั้นได้เวลาอันสมควรนำคณะเดินทางสู่สนามบินหาดใหญ่ (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง)
17.35 น. คณะเหินฟ้ากลับกรุงเทพฯ โดยสายการไทยแอร์เอเซีย เที่ยวบินที่ FD3115 ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาที
19.05 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานดอนเมืองโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
ค่าบริการรวม
- ค่าตั๋วเครื่องไป-กลับ ชั้นประหยัด เส้นทาง กรุงเทพฯ-หาดใหญ่
- ค่าน้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้เครื่องท่านละ 15 กิโลกรัม และท่านละ 7 กิโลกรัมสำหรับขึ้นเครื่อง ทั้งไปและกลับ
- ค่ารถรับส่งตามรายการท่องเที่ยว
- ค่าห้องพัก สองท่านต่อหนึ่งห้อง
- ค่าอาหารทุกมื้อตามที่ระบุในรายการ
- ค่าน้ำดื่ม และอาหารว่างตลอดการเดินทาง
- ค่าบัตรเข้าชมตามรายการ
- ค่าทิปไกด์และคนขับรถท้องถิ่น
- ค่าประกันอุบัติเหตุการเดินทางวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (สำหรับลูกทัวร์สูงวัยอายุ 70 ปีขึ้นไป วงเงินประกันจะเหลือครึ่งหนึ่ง)
- ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุตลอดการเดินทาง วงเงินท่านละ 100,000 บาท รวมทั้งวงเงินสำหรับการเคลื่อนย้ายเพื่อรักษาฉุกเฉินอีกท่านละ 50,000 บาท (สำหรับลูกทัวร์สูงวัยอายุ 70 ปีขึ้นไป วงเงินประกันจะเหลือครึ่งหนึ่ง)
- มัคคุเทศก์คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
ค่าบริการนี้ไม่รวม
- ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
- ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าเครื่องดื่มอื่นๆที่ไม่รวมในรายการ
- ค่าน้ำหนักกระเป๋าเกิน ตามที่สายการบินกำหนด ( เกิน 15 กิโลกรัมสำหรับกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง และเกิน 7 กิโลกรัมสำหรับกระเป๋าขึ้นเครื่อง )
เงื่อนไขการชำระค่าบริการ
- ชำระท่านละ 50%เพื่อทำการจอง
- ชำระส่วนที่เหลือ 30 วันก่อนวันเดินทาง
ช่องทางการชำระค่าบริการ
- ชำระโดยโอนเงินเข้าบัญชี :
- ชื่อบัญชี : บริษัท ทัวร์ฟ้าใส จำกัด
เลขที่บัญชี : 094-2-77483-6
ชื่อธนาคาร : กสิกรไทย สาขา มีนบุรี
ประเภทบัญชี : ออมทรัพย์
- ชื่อบัญชี : บริษัท ทัวร์ฟ้าใส จำกัด
เลขที่บัญชี : 109-266803-0
ชื่อธนาคาร : ไทยพาณิชย์ สาขา มีนบุรี
ประเภทบัญชี : ออมทรัพย์
หากโอนเงินเข้ามาแล้วรบกวน ส่งสลิปเงินโอนเข้ามาที่ tourfahsai@gmail.com หรือ ทางไลน์ได้ที่ Line ID : luxurious_kathy
- ชำระโดยเงินสด
- ชำระด้วยเช็ค หรือแคชเชียร์เช็ค โดยสั่งจ่ายในนาม “ บริษัท ทัวร์ฟ้าใส ”
เงื่อนไขการยกเลิก
- ยกเลิกก่อนการเดินทาง 60 วันขึ้นไป คืนเงินทั้งหมด
- ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30 – 59 วัน เก็บค่าใช้จ่ายท่านละ 50 % ของราคาทัวร์
- ยกเลิกการเดินทางน้อยกว่า 30 วัน เก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมด
หมายเหตุ
1. การเดินทางในแต่ละครั้งจะต้องมีผู้โดยสารจำนวน 15 ท่านขึ้นไป ถ้าผู้โดยสารไม่ครบจำนวน ดังกล่าวทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาหรือเลื่อนการเดินทางหรือยกเลิกการเดินทาง
2. ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ก่อนทุกครั้ง มิฉะนั้นทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
3. ขอสงวนสิทธิ์การเก็บค่าน้ำมันและภาษีสนามบินทุกแห่งเพิ่ม หากสายการบินมีการปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง
4. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเที่ยวบิน โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอันเนื่องจากสาเหตุต่างๆ
5. โปรแกรม/วันเดินทาง/ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาวะอากาศ, การเมือง, โรคระบาด, สายการบิน อัตราแลกเปลี่ยน และเหตุอื่นๆ ที่ไม่สามารถทราบการณ์ล่วงหน้า โดยทางบริษัทฯ จะคำนึงถึงประโยชน์และความปลอดภัยของท่านเป็นสำคัญที่สุด
6. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการออกนอกประเทศ / ห้ามเข้าประเทศ/ การนำสิ่งของผิดกฎหมาย /เอกสารการเดินทางไม่ถูกต้อง และความประพฤติส่อไปในทางเสื่อมเสีย รวมถึงกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, ภัยธรรมชาติ, การยกเลิกเที่ยวบิน, การนัดหยุดงาน, การประท้วง, การก่อจลาจล ซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัทฯ
7. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหาย อันเนื่องเกิดจากความประมาทของท่าน, เกิดจากการโจรกรรม และ อุบัติเหตุจากความประมาทของนักท่องเที่ยวเอง
8. ตั๋วเครื่องบินเป็นตั๋วกรุ๊ปราคาพิเศษ หากท่านไม่เดินทางไปกลับพร้อมคณะไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ไม่สามารถนำมาเลื่อนวันเดินทาง หรือคืนเงินได้
9. เมื่อท่านตกลงชำระเงินมัดจำหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด